ไมโครมิเตอร์มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร
Содержание
ผลประโยชน์ | ||||
ไมโครมิเตอร์เป็นเครื่องมือวัดประเภทหนึ่งที่มีความแม่นยำมากที่สุด ไมโครมิเตอร์ส่วนใหญ่สามารถวัดได้ลึกถึง 0.001 มม. หรือ 0.0001 นิ้ว | ||||
กลไกวงล้อเร่ง/หยุดให้แรงกดสม่ำเสมอบนปลอกนิ้ว ทำให้การวัดมีความน่าเชื่อถือและทำซ้ำได้ | ||||
เนื่องจากมีสเกลปลอกและสเกลปลอกนิ้วอยู่ในตัวเครื่อง จึงไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือวัดอื่นๆ เช่น ไม้บรรทัดหรือเทปวัด | ||||
ไมโครมิเตอร์ที่ใช้วัดวัตถุขนาดใหญ่อาจมีราคาแพงมาก อย่างไรก็ตาม ทั่งไมโครมิเตอร์เป็นตัวเลือกที่ประหยัดสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการวัดค่าได้หลากหลาย ไมโครมิเตอร์เหล่านี้มีส้นแบบเปลี่ยนความยาวได้หลายขนาด ช่วยให้คุณวัดได้หลายขนาดด้วยกรอบเดียว | ||||
ไมโครมิเตอร์มีความทนทานสูงเนื่องจากตัวเรือนทำจากอีนาเมลชุบแข็งและพื้นผิวการวัดด้วยปลายทังสเตนคาร์ไบด์ มีความทนทานสูงและแทบไม่ต้องเปลี่ยนหรือซ่อมแซม | ||||
มีไมโครมิเตอร์ชนิดพิเศษหลายประเภทที่ใช้วัดงานประเภทใดประเภทหนึ่ง ตัวอย่างเช่น ไมโครมิเตอร์แบบใบมีดใช้ในการวัดคุณสมบัติที่ซ่อนอยู่ เช่น ร่อง ในขณะที่ไมโครมิเตอร์วัดความหนาของกระดาษจะวัดความหนาของกระดาษ | ||||
ข้อเสียของโบนัสไม่มีเงินฝาก | ||||
ไมโครมิเตอร์ส่วนใหญ่มีช่วงการวัดที่ 25 มม. (เมตริก) และ 1 นิ้ว (อิมพีเรียล) เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าจำเป็นต้องใช้ไมโครมิเตอร์เพิ่มเติมเพื่อวัดวัตถุที่มีขนาดใหญ่ขึ้น | ||||
เนื่องจากขนาดของมัน ไมโครมิเตอร์ที่ใช้สำหรับการวัดขนาดใหญ่จึงมีราคาแพงมากเมื่อเทียบกับไมโครมิเตอร์ที่เล็กกว่า | ||||
ต่างจากคาลิปเปอร์แบบหมุนหรือคาลิปเปอร์ซึ่งสามารถทำการวัดได้หลายแบบ (ภายนอก ด้านใน พิทช์ และความลึก) ไมโครมิเตอร์สามารถวัดได้เพียงงานเดียว ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางของรูในแผ่นไม้ รวมถึงความกว้างภายนอกของชิ้นไม้นั้น คุณจะต้องใช้ไมโครเมตรเพื่อวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายในและภายนอก | ||||